พูดถึงดันเจียนโหด ๆ เมื่อไหร่ ชื่อ Gloomhaven ก็ต้องโผล่มาแน่นอน และถ้าคุณกำลังหาวิธีอัปเลเวลตัวเองและทั้งวง “กลยุทธ์ Gloomhaven เล่นยังไงให้ผ่านด่านโหด” นี่แหละคือสิ่งที่ต้องมีบนโต๊ะ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายแทงค์ สายเวท สายซัพ หรือสายลุยดาเมจ การรู้หลักคิดระดับภาพรวมและเทคนิคเล็ก ๆ ที่ช่วยเซฟการ์ด เซฟเลือด และเซฟแคมเปญสำคัญมากพอ ๆ กับการจัดเด็คสวย ๆ เลยทีเดียว ระหว่างนั่งวางแผนดันรอบใหม่ บางวงก็มีมุกแวะหยิบมือถือเข้า ยูฟ่าเบท ไปลุ้นอะไรเบา ๆ ก่อน แล้วค่อยกลับมาเปิด Scenario ใหม่ใน Gloomhaven แบบสมองโล่ง ๆ พร้อมคิดแผนจัดเต็ม

บทความนี้จะพาไปทีละชั้น ตั้งแต่ Mindset ของทีม การจัดแผนเทิร์น การยืนตำแหน่ง การบริหารการ์ด การอ่านมอนสเตอร์ ไปจนถึงการรับมือบอสและด่านโหด พร้อมตัวอย่างสถานการณ์ให้เอาไปปรับใช้กับวงตัวเองได้เลย
Mindset ก่อนลุย: Gloomhaven ไม่ใช่เกม “ตีแรงสุดแล้วจบ”
หลายวงที่แพ้ซ้ำ ๆ มีจุดร่วมอย่างหนึ่งคือ “เห็นการ์ดดาเมจแรง = กดก่อนคิด” ซึ่งใน Gloomhaven นี่คือทางด่วนสู่การ Exhausted กองแรก ๆ ของปาร์ตี้เลย เพราะหัวใจของเกมไม่ใช่ใครตีแรงสุด แต่คือ “ทีมใช้ทรัพยากรภาพรวมได้ดีแค่ไหน”
ลองตั้ง Mindset ใหม่แบบนี้ก่อนลงดัน:
- เป้าหมายของด่านคือ เคลียร์ Objective ไม่ใช่ทำตัวเลขดาเมจสูงสุด
- การ์ดในมือ = Stamina/เวลา ของตัวละคร ยิ่งใช้ Loss มั่ว ยิ่งหมดเร็ว
- ทีมที่ดีไม่ใช่ทีมที่แต่ละคนเล่นเก่ง แต่คือทีมที่ ช่วยกันเล่นเก่ง
พอคิดแบบนี้ เราจะเริ่มให้ความสำคัญกับการยืนตำแหน่ง การเชื่อมจังหวะกัน และการรู้ว่า “ตอนไหนควรบวก ตอนไหนควรถอย”
การวางแผนเทิร์น: คิด 3 ชั้นทุกครั้งที่เลือกการ์ด
กลยุทธ์ Gloomhaven ขั้นพื้นฐานแต่โคตรสำคัญ คือการวางแผนตั้งแต่ตอนเลือกการ์ด 2 ใบในแต่ละรอบ เพราะหลังพลิกแล้วคุณทำได้เท่าที่เตรียมมาเท่านั้น
ชั้นที่ 1 – แผนของเรา
ก่อนเลือกการ์ด ให้ถามตัวเองก่อนว่า “เทิร์นนี้เราอยากทำอะไรเป็นหลัก”
- จะ ขยับตำแหน่ง ไปยืนหน้า/ถอยหลัง/เข้ามุมปลอดภัย
- จะ ลุยโจมตี ตัวไหนเป็นพิเศษ
- จะ ฮีล/บัฟเพื่อน หรือคอนโทรลฝูงมอน
แล้วเลือกการ์ดบน–ล่างให้ตอบโจทย์นั้น อย่าเลือกแบบ “หยิบสองใบที่ดูแรงสุด” แล้วค่อยไปคิดทีหลังบนโต๊ะ
ชั้นที่ 2 – แผนของทีม
ก่อนหงายการ์ด ลองคุยกันแบบไม่ต้องสปอยด์เลข Initiative ว่า:
- รอบนี้ใครจะเป็นคนยืนหน้า
- ใครจะเป็นคนเก็บตัวเลือดน้อย
- ใครจะคุมฝูงด้านข้าง
คำคุยแค่ 20–30 วินาทีจะช่วยให้เทิร์นทั้งปาร์ตี้มีทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่คนหนึ่งวิ่งเข้า อีกคนถอยออก แล้วกลายเป็นมอนรุมคนกลางแบบไม่ตั้งใจ
ชั้นที่ 3 – แผนสำรองถ้าแผนพัง
ใน Gloomhaven แผนพังเป็นเรื่องปกติ เพราะมอนอาจพลิก Initiative แปลก ๆ หรือเปิด Attack Pattern ที่ไม่คาดคิด ลองคิดเผื่อว่า:
- ถ้าตัวที่เราตั้งใจตีตายไปก่อนโดยเพื่อน → เราจะเปลี่ยนเป้าทันไหม
- ถ้าเรายืนตำแหน่งที่เล็งไว้ไม่ทัน → จะใช้ด้าน Default ของการ์ดแก้ขัดได้ไหม
- ถ้าเลือดตัวเอง/เพื่อนลงต่ำกว่าที่คิด → จะเปลี่ยนจากบุกเป็นถอยได้หรือเปล่า
การเตรียมใจไว้ว่าทุกเทิร์น “อาจมีเรื่อง” ทำให้เราตัดสินใจหน้างานได้ไวขึ้น ไม่ยึดติดกับแผนเดิมเกินไป
การยืนตำแหน่ง: ศิลปะของการยืนให้โดนตี…อย่างคุ้มค่า
ใน Gloomhaven ตำแหน่งคือทุกอย่าง การเข้า–ออกระยะมอน การยืนบังทาง การลากมอนเข้ากับดัก ล้วนเป็นกลยุทธ์ที่เปลี่ยนด่านโหดให้กลายเป็นด่านที่ทีมแทบไม่เสียเลือดได้เลย
หลักทองของตำแหน่ง
- ยืนให้มอนต้องเลือกระหว่าง “ตีเรา” หรือ “เดินต่อ”
- ถ้ายืนขวางช่องแคบ มอนบางตัวจะยอมตีเราแทนเดินอ้อมไปหาเพื่อน
- ระวังการยืนติดกันเกินไป
- มอนบางแบบมี AoE หรือโจมตีหลายเป้าหมาย การยืนอัดกันคือของโปรดมัน
- ดึงมอนเข้า AoE ของเพื่อน
- คนที่มี Push/Pull ควรคุยกับสายเวท AoE ว่าจะพยายามจัดแถวให้ยังไง
หลายครั้งดาเมจที่ดีสุด ไม่ได้มาจากการตีแรงสุด แต่มาจากการ “จัดแถวศัตรูให้เพื่อนยิง”
ใช้ผนัง ทางแคบ และกับดักให้เป็นเพื่อน
- แคบ ๆ = ที่ของแทงค์
- กับดัก = เครื่องมือฟรีที่ช่วยทำดาเมจ/สถานะ
- มุม = ที่หลบของสายบาง/สายฮีล
ถ้าด่านไหนมีทางแคบยาว ๆ การให้ตัวถึกที่สุดไปยืนปิดช่อง แล้วให้ตัวอื่นยิงลอดหลัง ถือเป็นกลยุทธ์คลาสสิกที่ลดความเสี่ยงทั้งทีมได้เยอะ
บริหารการ์ด: เล่นให้ครบด่าน ไม่ใช่เล่นให้เท่สุดในห้องแรก
การเล่น Gloomhaven ให้รอดคือการเข้าใจว่า “การ์ดที่ไม่ได้ใช้ = ดาเมจ/utility ที่หายไป” และการเผาการ์ด Loss คือการยอมแลกเวลาอยู่ในดันที่สั้นลงเพื่อพลังที่แรงขึ้น
กฎง่าย ๆ ของการใช้การ์ด Loss
- ไม่ใช้ Loss ติดกันหลายรอบถ้าไม่จำเป็น
- เก็บ Loss บางใบไว้เป็น “ไม้ตาย” ช่วงใกล้จบด่านหรือช่วงวิกฤต
- ถ้าใช้ Loss แล้วผลลัพธ์ออกมา “เฉย ๆ” แปลว่าใช้ผิดจังหวะ
ถามตัวเองทุกครั้งก่อนกด Loss ว่า “ถ้าไม่ใช้ใบนี้ ด่านนี้มีโอกาสแพ้เลยไหม” ถ้าไม่ถึงขนาดนั้น บางทีการ์ดปกติสองใบอาจคุ้มกว่า
จังหวะการพัก (Rest) ที่ควรคุยทั้งทีม
Short Rest / Long Rest ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเอง เพราะตอนคุณพักคือเทิร์นที่ทีมมี “ทรัพยากรลดลงหนึ่งคน”
- ถ้าคุณจะ Long Rest → บอกเพื่อนล่วงหน้าเพื่อให้คนอื่นเตรียมรับภาระเพิ่ม
- ถ้า Short Rest แล้วเสี่ยงเสียการ์ดสำคัญ → คิดว่าด่านนี้ยังยาวแค่ไหน
บางครั้ง การให้หนึ่งคน Long Rest เพื่อเรียงมือกลับมาดี ๆ ในตอนที่มอนเหลือน้อยกว่า ก็ช่วยให้รอบต่อ ๆ ไปทีมเล่นง่ายขึ้นมาก แทนที่จะฝืน Short Rest แล้วเสียการ์ดดี ๆ ไปแบบน่าเสียดาย
อ่านมอนสเตอร์ให้ขาด: รู้ศัตรู = รู้ครึ่งหนึ่งของชัยชนะ
อีกหนึ่งกลยุทธ์ Gloomhaven ที่มักถูกมองข้ามคือ “การอ่านนิสัยมอน” เราไม่ได้สู้กับกองตัวเลข แต่สู้กับแพทเทิร์นการโจมตีที่พอเดาได้ระดับหนึ่งจากเด็คของมัน
สิ่งที่ควรสังเกตเกี่ยวกับมอนแต่ละแบบ
- มันตีใกล้หรือตีไกลเป็นหลัก
- มันมีการ์ดที่ให้ Move สูงบ่อยแค่ไหน
- มีการ์ดที่สาดสถานะหรือ AoE หรือไม่
- เลือดต่อหนึ่งตัวหนาแค่ไหนเมื่อเทียบกับดาเมจเฉลี่ยของทีมเรา
พอรู้แนว เราจะวางตำแหน่งและเลือกเป้าหมายได้ดีขึ้น เช่น:
- มอนตีไกล → พยายามเข้าใกล้หรือบังคับให้มันต้องเดินเข้าหา
- มอนตี AoE → กระจายยืนไม่ให้โดนหลายตัวพร้อมกัน
- มอนเลือดบางแต่ตีแรง → โฟกัสล้มก่อน แม้จะไม่ใช่ตัวเลือดมากสุด
กลยุทธ์รับมือบอส: ไม่ใช่แค่ตีให้เลือดหมด
ด่านบอสใน Gloomhaven มักจะไม่ได้ยากเพราะบอสตัวเดียว แต่ยากเพราะ “ของแถม” ที่มาด้วย เช่น มอนเสริมที่เรียกเพิ่ม กลไกพิเศษบนแมพ หรือเงื่อนไขชนะที่ซับซ้อน
แผนสามขั้นสำหรับบอสไฟต์
- เข้าใจ Objective จริง ๆ ของด่าน
- ต้องฆ่าบอสอย่างเดียว หรือมีเงื่อนไขเสริม เช่น ป้องกันอะไรไว้ด้วย?
- จัดการสิ่งกวนใจก่อน
- มินเนียนบางตัวอาจต้องเก็บก่อนเพื่อให้โฟกัสบอสได้
- เซ็ตอัปเทิร์นไม้ตาย
- ให้สายซัพเตรียมบัฟ/ดีบัฟ
- ให้สายดาเมจเก็บการ์ด Loss แรง ๆ ไว้ใช้ในช่วงนี้
- ใช้ไอเท็มเสริมพลัง/เพิ่มดาเมจเทิร์นสำคัญ
อย่าลืมเช็กว่าทีมเหลือการ์ดในมือและในเด็คพอไหม ถ้าทุกคนเหลือการ์ดไม่กี่ใบก่อนถึงห้องบอส นั่นคือสัญญาณว่า “ห้องแรก ๆ เราเล่นเปลืองไปหน่อยแล้ว”
คอมโบทีม: ทำให้ทั้งวงเล่นเป็น “เครื่องจักร” มากกว่าคนแยกกัน
หนึ่งในความมันของ Gloomhaven คือการคอมโบระหว่างตัวละคร ถ้าเก็บข้อมูลกันดี ๆ ทีมคุณจะเริ่มมี “สูตรประจำวง” ที่ใช้ทีไรยิ้มทุกครั้ง
ตัวอย่างคอมโบที่เจอบ่อย
- คอมโบลาก–สาด
- ตัวคอนโทรลใช้ Pull/Push ดึงมอนให้มาอยู่ในรูปแบบที่สวย
- สาย AoE กดสกิลตีหมู่ใส่ → ล้างห้องได้ในเทิร์นเดียว
- คอมโบบัฟ–บูสต์–บอมบ์
- ซัพพอร์ตให้บัฟเพิ่มดาเมจหรือเพิ่มการ์ด Modifier ดี ๆ
- ดาเมจเมนใช้การ์ด Loss + ไอเท็มเพิ่มเป้าหมาย/ดาเมจ
- ผลลัพธ์คือคนทั้งโต๊ะร้อง “โหดไป๊” พร้อมกัน
- คอมโบแท็งค์–ซ้อนเกราะ
- แทงค์เปิด Shield หรือไอเท็มลดดาเมจ
- ซัพพอร์ตช่วย Shield เพิ่ม/ฮีล
- มอนทั้งห้องรุมตีแทงค์ แต่เลือดลงนิดเดียว ทั้งทีมยืนยิงฟรีข้างหลัง
การมีคอมโบประจำแบบนี้ทำให้ปาร์ตี้เล่นได้ลื่นและมั่นใจมากขึ้น อย่าลืมคุยกันหลังจบด่านว่าคอมโบไหนเวิร์ก คอมโบไหนยังเฉย ๆ จะได้ปรับแผนต่อ
House Rules & การปรับความยาก: ทำให้โหด “พอดีกับวง”
ไม่มีใครบังคับว่าคุณต้องเล่น Gloomhaven โหดสุดเสมอไป กลยุทธ์ Gloomhaven เวอร์ชันสายครอบครัว/สายเพื่อนชิล ๆ คือการกล้าปรับความยากให้เหมาะกับเวลาชีวิตและความพร้อมของวง
ตัวอย่างการปรับความยากแบบไม่ทำลายแกนเกม
- ลดเลเวลมอนลง 1 ขั้นจากที่ Rulebook แนะนำ
- ถ้าแพ้ด่านเดิมเกิน 2–3 รอบ ให้เพิ่ม HP ทีมเล็กน้อยหรือเพิ่มไอเท็ม/ทองเล็ก ๆ น้อย ๆ
- อนุญาตให้ “ย้อนการตัดสินใจบางอย่าง” ถ้าเพิ่งผ่านไปไม่กี่วินาทีและทุกคนยังเห็นตรงกันว่าแค่ลืม
เป้าหมายคือให้ด่านรู้สึก “ท้าทายแต่ไปต่อได้” ไม่ใช่ “ท้อจนอยากเก็บกล่องเข้าตู้”
ทำให้แต่ละคืน Gloomhaven มีจังหวะผ่อน–เร่งที่พอดี
อีกมุมหนึ่งของกลยุทธ์ Gloomhaven คือการจัด Flow ของคืนเล่นเกมทั้งคืน
- เริ่มจากด่านที่คาดว่าง่ายหรือกลาง ๆ ก่อน → ให้ทุกคน “วอร์ม”
- ถ้าผ่านแบบสบายและยังมีเวลา → ค่อยไปด่านยากหน่อย
- ถ้าด่านแรกหนักมาก แพ้แบบหมดรูป → อาจพักกินขนมคุยนอกเกมก่อน แล้วค่อยคุยว่าอยากลองใหม่ไหม
บางวงจะเล่นสลับกับเกมเบา ๆ หรือกิจกรรมอื่น เช่น หลังเครียร์ด่านเครียด ๆ ได้ ก็พักไปเม้ามอยเรื่องกีฬา เกมออนไลน์ หรือบางคนหยิบมือถือไปลุ้นอะไรเร็ว ๆ บนเว็บใหญ่ผ่าน สมัคร UFABET แล้วค่อยกลับมาจบคืนด้วยด่านใหม่ที่เบาลงให้จบด้วยรอยยิ้ม
ข้อผิดพลาดยอดฮิตที่ทำให้ด่านง่ายกลายเป็นด่านโหด
ลองเช็กดูว่าทีมคุณมีพฤติกรรมแบบนี้มั้ย ถ้ามี แปลว่ามีพื้นที่ให้พัฒนาอีกเยอะเลย
- ทุกคนวิ่งเข้าใกล้มอนพร้อมกัน → โดน AoE หรือโดนล้อมตี
- ใช้การ์ด Loss แบบไม่คิดยาว → ยังไม่ถึงห้องสุดท้ายก็ Exhausted กันแล้ว
- ไม่คุยกันเรื่อง Rest เลย → อยู่ดี ๆ รอบเดียวหายไปสองคนเพราะดันพักพร้อมกัน
- โฟกัสแต่บอส ลืมมอนรอบ ๆ → กลายเป็นโดนรุมจนเลือดไหลก่อนล้มบอส
- สายซัพไม่กล้าใช้สกิลที่ “เผาการ์ด” เพื่อช่วยทีม → เซฟการ์ดตัวเอง แต่ทีมโดยรวมลำบากกว่าเดิม
การรู้ว่าพลาดตรงไหนคือก้าวแรกของการเล่นดีขึ้นด่านถัดไป
กลยุทธ์ Gloomhaven ที่ดีคือการเล่นเป็น “ทีม” มากกว่าการเล่นเป็น “ฮีโร่เดี่ยว”
เมื่อมองย้อนกลับมา ทั้งหมดที่เล่ามาไม่ใช่ทริกมายากลอะไร แต่คือการปรับวิธีคิดให้เข้ากับเกมดันเจียนแบบแคมเปญยาว ๆ อย่าง Gloomhaven จริง ๆ กลยุทธ์ Gloomhaven ที่ทำให้ผ่านด่านโหดได้ ไม่ใช่ “ใครมือไวใช้การ์ดแรงก่อน” แต่คือการที่ทุกคนในทีม:
- เข้าใจบทบาทของตัวละครตัวเอง
- รู้จังหวะบุก–ถอย และใช้การ์ด Loss อย่างมีสติ
- สื่อสารกันก่อน–ระหว่าง–หลังด่านเสมอ
- พร้อมจะปรับความยากและกติกาจูนเล็ก ๆ ให้พอดีกับวงตัวเอง
สุดท้ายแล้ว แคมเปญของคุณจะสนุกหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่มอนโหดแค่ไหน แต่อยู่ที่ทุกครั้งที่นัดกันมาเล่น ทุกคนรู้สึกว่าตัวเอง “เป็นส่วนหนึ่งของทีม” มากแค่ไหน บางคืนอาจเริ่มจากการคุยเล่นเรื่องงาน เรื่องกีฬา หรือเรื่องที่ไปลุ้นอะไรสนุก ๆ ผ่านเว็บชื่อดังอย่าง ทางเข้า UFABET ล่าสุด มาเมื่อคืนนี้ แล้วก็ค่อยย้ายเวทีความลุ้นกลับมาที่โต๊ะ Gloomhaven ให้การ์ดและดันเจียนเป็นเวทีหลักของค่ำคืนนั้น
ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ แปลว่าทีมคุณพร้อมจะอัปเลเวลการเล่นแล้ว ลองชวนเพื่อนเปิดกล่อง จัดโต๊ะ หยิบตัวละครขึ้นมา แล้วใช้กลยุทธ์ Gloomhaven พวกนี้ในการลงดันครั้งถัดไป เชื่อเถอะว่าด่านที่เคยรู้สึก “โหดเกินไป” จะค่อย ๆ กลายเป็น “ความท้าทายที่อยากกลับไปลุยอีกสักรอบ” มากกว่าความทรงจำที่ทำให้ไม่กล้าแตะกล่องอีกเลย 💜🎲